เทคนิคการหางานดีๆทำ-เตรียมเอกสารอุปกรณ์ให้พร้อมสมัครงาน

มาถึงการเตรียมตัวกันอีกแบบหนึ่ง ถ้าไม่นำมาบอกกล่าวคงไม่สบายใจไปอีกนาน นั่นคือเรื่องหลักฐานประกอบการสมัครงาน แม้ดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่นับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่ง…ที่ไม่ควรพลาด

อย่างที่บอกไว้แล้ว วันนัดพบแรงงานจะมีบริษัทมากมายมาออกบูธเปิดรับสมัคร คุณจึงไม่มีทางรู้ได้เลยว่าวันนั้นจะต้องหลวมตัว (หลวมใจ) สมัครไปกี่บริษัท

จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องเตรียมเอกสารต่างๆ ให้มากเพียงพอไม่ว่า รูปถ่าย (ทั้ง 1 และ 2 นิ้ว อย่างน้อยอย่างละ 1 โหล) ใบรับรองผลการศึกษา (Transcript) สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และประวัติย่อ(Resume)

ในส่วนประวัติย่อนี้ ฉันอยากให้คุณทำเก็บไว้บ้าง มีหลายบริษัทในปัจจุบันเลือกนำมาพิจารณาประกอบกับใบสมัคร หรือแม้เขาไม่ต้องการ คุณก็สามารถแนบประวัติย่อไว้เป็นหนึ่งในหลักฐานการประกอบการสมัครได้ ช่วยให้บริษัทรู้จักคุณมากขึ้นกว่าพิจารณาจากใบสมัครอย่างเดียว

ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้คุณได้เปรียบคู่แข่งขันในตลาดงาน ใครยังไม่เคยเห็นหรือรู้จักประวัติย่อมาก่อน ฉันนำมาให้ดูพอหอมปากหอมคอกัน 2 แบบทั้งฉบับไทยแลฉบับอังกฤษในตอนต่อไป แต่ถ้าอยากเห็นหลายๆ แบบสามารถดูได้จากคู่มือการสมัครงาน หรือคลิกเข้าไปดูตัวอย่างจากเว็บไซต์สมัครงานต่างๆ ก็มี มีให้เลือกใช้กันหลายรูปแบบตามแต่คุณชอบและเห็นว่าเหมาะสม

ที่บอกให้คุณถ่ายเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาประกอบการสมัครงานให้มากเพียงพอ เหตุผลสำคัญคือค่าถ่ายเอกสารบริเวณงานมักแพงหูฉี่เสมอ เว้นแต่เป็นงานในมหาวิทยาลัยที่ยังคงราคานักศึกษาไว้ ที่ว่าแพงนี่จริงนะ ฉันเองเคยจ่ายหน้าละ 3 บาทมา นึกขึ้นมายังเศร้าไม่หาย เจอมาก่อนถึงรู้ เลยขอเตือนกันไว้สักหน่อย ที่น่าเศร้ากว่าก็คือ คิวที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ก็ทั้งงานมีจุดบริการถ่ายเอกสารแค่จุดเดียว เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา แถมยังเสียใจไม่หาย

ขอเน้นอีกนิด เอกสารประกอบทุกอย่าง ควรอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่ยับเยิน เหมือนเพิ่งไปแย่งมาปาก (- -) นะถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกถ่ายเอกสารร้านที่มีคุณภาพสักหน่อย จะทำให้เอกสารของคุณคมชัด สวยงาม ไม่เลอะเลือนหรือเป็นปื้นดำ ซึ่งทำให้ไม่น่าดูเลย โดยเฉพาะ Resume ที่มีรูปถ่ายของคุณอยู่ด้วย ไม่ต้องพูดถึง จากหน้าธรรมดาที่พื้นๆ ธรรมดาๆ อยู่แล้ว เครื่องถ่ายเอกสารอาจจะเนรมิตให้ดูแย่ไปอีกก็ได้…ระวังไว้นะ

หลักฐานประกอบทั้งหมด คุณควรใส่แฟ้ม จัดไว้เป็นชุดๆ โดยใช้คลิปติดไว้ เพื่อสะดวกในการหยิบใช้ในกรณีที่บริษัทต้องการหลักฐานครบชุด ถ้าบริษัทใดต้องการไม่ครบชุด คุณเพียงดึงหลักฐานที่เขาไม่ต้องการออกเท่านั้นเป็นอันจบ ไม่ต้องเสียเวลาเลือกหยิบหลักฐานทีละใบๆถึงตรงนี้อยากแนะนำ ถ้าเขาต้องการเอกสาร 2 ใบ ก็ให้แค่ 2 ใบ ต้องการแค่รูปเดียว ก็ให้แค่รูปเดียว (ที่เหลือเก็บไว้ใช้กับบริษัทที่ต้องการมันดีกว่า ช่วยเซฟตั้งเยอะ)ไม่ต้องหวังดีกลัวว่าเขาจะได้ข้อมูลไม่ครบ แล้วพาลไม่เรียกคุณเข้าสัมภาษณ์ อย่างที่บอกไว้นั่นแหละบางบริษัทต้องการแค่ข้อมูลเบื้องต้นก่อน เมื่อคุณไปส่งใบสมัครที่บูธ ก็ควรรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานให้เรียบร้อยก่อนเดินออมา เพราะหลักฐานอาจจะขาดหรือเกินก็ได้ เขาจะคืนให้คุณเพราะไม่อยากเก็บไปรกที่บริษัทนั่นเอง

ขอย้ำ หลักฐานการประกอบการสมัครงานทุกอย่าง อย่าลืมเซ็นกำกับสำเนาถูกต้องให้ครบถ้วนด้วย เซ็นจากบ้านเลยยิ่งดี เพราะลายเซ็นจะเป็นสิ่งที่คุณเสียเวลาในการสมัครงานมากที่สุด…เชื่อฉันสิ

 

นอกจากหลักฐานต่างๆ แล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมไปไม่ให้พลาดอีกอย่างหนึ่งคือ อุปกรณ์เครื่องเขียน หรือStationary นั่นเอง จำพวกปากกา ดินสอ ยางลบ น้ายาลบคำผิด กาว และคลิปหนีบกระดาษ

ปากกา…..ควรเป็นสีดำหรือสีน้ำเงินเท่านั้น สีแดงไม่ต้องหยิบติดมือไปนะ ไม่มีโอกาสใช้แน่นอน ถึงมีโอกาสก็ห้ามเผลอเด็ดขาด มันไม่สุภาพแบบไม่น่าให้อภัยเลยนะล่ะ รับรอง ถ้ายังไม่ทันเริ่มอ่าน ใบสมัครที่คุณบรรจงเขียนอาจจะจรลีไปอยู่ก้นถังขยะแล้วก็ได้ คุณอาจจะคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องมาเตือน…ใครก็รู้ แต่ไอ้ใครๆ ก็รู้นี่แหละเห็นมานักต่อนักแล้ว และถ้าเป็นไปได้ ขอให้ใช้ปไม่ได้มาโฆษณาชวนเชื่ออะไรแต่รับรองว่าดูดี ที่สำคัญอย่าลืมหยิบไปหลายๆ ด้าม เพราะถ้ามีปัญหาจะได้เรียกตัวสำรองมาใช้แทนไงล่ะ….กันไว้ก่อน (ดีกว่าแก้เป็นไหนๆ)

ดินสอ…….อันนี้ก็จำเป็น ถ้ายังจำได้ฉันเคยบอก คุณต้องจดตำแหน่งที่เปิดรับสมัครเมื่อหยิบใบสมัครมาจากบูทเพื่อกันหลงลืมและสับสน จดลงไปในช่องตำแหน่งที่ต้องการสมัครนั่นแหละ แล้วค่อยลบออกเมื่อกรอกใบสมัครเสร็จแล้ว

น้ำยาลบคำผิด….จำเป็น แต่ไม่แนะนำให้ใช้บ่อยนัก อาจจะทำให้ใบสมัครดูไม่เรียบร้อย คุณจึงควรกวาดสายตาอ่านใบสมัครก่อนกรอกสักหนึ่งรอบ เพราะใบสมัครแต่ละบริษัทมีข้อแตกต่างกันนิดๆ หน่อยๆ ที่อาจทำให้คุณพลาดได้ เช่น ชื่อกับนามสกุลแยกกันอยู่คนละช่อง แต่เรามักเผลอกรอกต่อในช่องเดียวกันอยู่เรื่อย ฉันเองก็พลาดมาหลายครั้ง และหลายครั้งมักใช้ยาลบคำผิดในกรณีนี้บ่อยๆ ถ้าคิดว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คงมากพอดู จนหลายบริษัทคิดเล่นๆ ไปว่า จุดนี้แหละจะเป็นกับดักวัดความละเอียดรอบคอบในเบื้องต้นของผู้สมัคร….ว่าเข้าไปนั่น

แต่ก็ไม่อยากให้คุณต้องพลาด ไม่แน่ใจเหมือนกัน ที่คิดเล่นๆ เนี่ยจะมีผลบังคับใช้จริงเมื่อไหร่?

กาว….ไว้ติดรูปถ่ายในใบสมัคร ขอแนะนำกาวแท่งที่สะดวกทั้งพกพาและใช้งาน ไม่เลอะเทอะติดไม้ติดมือเดี่ยวพาลไปเลอะใบสมัครจะเป็นเรื่องใหญ่

คลิปหนีบกระดาษ….ให้ดีพกเป็นกล่องเลย ช่วยให้หยิบใช้ง่าย คุณต้องใช้มันเยอะเพื่อรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่ แถมช่วยป้องกันความสับสนตอนคุณนำใบสมัครไปส่งอีกด้วย คุณคงไม่ได้ถือใบสมัครไปส่งแค่บริษัทเดียว….จริงไหม? ที่สำคัญต้องส่งให้ถูกบริษัทนะถ้ากลายเป็นจดหมายผิดซองละก็ คุณอาจโดนน๊อกตั้งแต่ยังไม่เริ่มชกก็เป็นได้

สิ่งที่ต้องเตรียมตัวอีกอย่าง….เลขที่บัตรต่างๆ เช่น เลขที่บัตรประชาชน เลขที่ใบขับขี่ รับรองคุณต้องกรอกในใบสมัครทุกใบ ไม่มีเว้น รวมถึงประวัติการศึกษา ที่มักให้กรอกปีที่เริ่มต้นและสิ้นสุดในแต่ละระดับของการศึกษา

เป็นเรื่องชวนปวดเศียรเวียนเกล้าไม่น้อย ฉันเห็นหลายคนนั่งนับนิ้วกันพัลวัน บางคนนับไปงงไป หันมาถามฉันว่าถูกไหม? ฉันไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร เพราะงงไปด้วยเหมือนกัน

คุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับปีคริสตศักราชอยู่ใช่ไหม? เราช่วยคุณได้ แค่มี ใบสมัครต้นแบบ เก็บไว้ มันจะช่วยคุณได้มาก

โอ้จอร์ด มันยอดมาก ฉันต้องทำอย่างไรไม่ยากเลย เพียงคุณหาใบสมัครเปล่าของบริษัทใดก็ได้ที่คิดว่าสมบูรณ์มากที่สุด ครอบคลุมคำถามที่บริษัทส่วนใหญ่มักถามกัน หรือจะออกแบบเองก็ไม่ว่ากัน กรอกข้อมูลทั้งหมดของคุณลงไป โดยให้ยึดใบสมัครฉบับนั้นเป็นข้อมูลหลักในการสมัครงาน (ควรเตรียมไปจากบ้าน)เมื่อมีข้อมูลหลักอย่างนี้แล้ว ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่ต้องห่วงว่าบัตรต่างๆ ของคุณจะตกหล่นอยู่ที่บูธไหน ก็เล่นควักเข้าควักออกเหลือเกิน ประหยัดเวลาตั้งเยอะ ที่สำคัญ อย่าลืมเตรียมไปทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษนะ ขนาดปีพุทธศักราชไทยยังนับกันไม่ค่อยถูกถ้าเป็นคริสตศักราชละก้อ…ไม่ต้องพูดถึง

……เห็นไหมเรื่องง่ายๆ แต่หลายคนก็พลาดให้เห็นกันมาแล้วบ่อย…….

จาก….กลยุทธ์เด็ด คว้างานดี ชีวิตนี้ไม่มีเตะฝุ่น โดย
ปนัฎดา สังข์แก้ว