เทคนิคการหางานดีๆทำ-เกรดเฉลี่ย กิจกรรมระหว่างเรียน และการวางแผนจะเรียนต่อ สำคัญไหม?

เกรดเฉลี่ย และกิจกรรมระหว่างเรียนสำคัญด้วยหรือ…..?

ฉันคิดว่าหลายคนคงมีคำถามนี้อยู่ในใจ อาจติดค้างมานาน แต่ไม่รู้ถามใครดี แล้วจะได้คำตอบที่ถูกต้องหรือเปล่า ก็ไม่รู้ ฉันเองก็เหมือนกัน ตอนยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย คำถามนี้ป้วนเปี้ยนวนเวียนในหัวหลายต่อหลายรอบ เรียนไปถามตัวเองไปมันจำเป็นสักแค่ไหนกันเชียว เรียนให้จบตามเวลาที่เขากำหนดไว้ ก็จะตายอยู่แล้ว จะมาเอาอะไรกับเกรดที่สวยหรู กิจกรรมที่โก้เก๋อีก ไม่เข้าใจเลยจริงๆ แถมยังไม่สามารถหันหน้าไปถามใครได้อีก ก็ไม่มีใครรู้นี่

เห็นรุ่นพี่หลายคนเกรดร่อแร่ เฉียดฉิว ได้งานดีๆ ตั้งเยอะ บางคนตั้งใจเรียนขนาดพลาดเกียรตินิยมเหรียญทองเส้นยาแดงผ่าแปด ฉันก็ยังเห็นเดินแตะฝุ่นอยู่เลย ไหนจะกิจกรรมอีก แค่เรียนอย่างเดียวก็ไม่รู้ว่าจะรอดหรือเปล่า พ่วงท้ายกิจกรรมยาวเป็นหางว่าว ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตงานนี้ นักกิจกรรมตัวยงหลายคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีงานโน้นงานนี้สารพัด ก็เกิดอาการหวงแหนมหาวิทยาลัยเอามากๆ เลยขออยู่ต่ออีกปีสองปีกันเป็นแถว นอกจากไม่มีคำตอบให้กับคำถามที่ค้างคาใจแล้ว สิ่งที่ได้เห็นกับตายังทำให้สับสนมากขึ้นไปอีก จะเอาไงดีกับชีวิตฉันเนี่ย

สำหรับใครที่ตอนนี้คิดแบบนี้ อย่าเพิ่งสับสนกับชีวิตนะ ใจเย็นๆ ฉันมีคำตอบมาให้แล้ว ที่ถามว่าเกรดเฉลี่ยและกิจกรรมสำคัญด้วยหรือ? ขอบอกตรงนี้เลยว่า สำคัญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีปัจจัยอื่นอีกเยอะที่ทำให้คุณได้หรือไม่ได้งาน อย่างที่บอกกันมาตลอด ไม่อยากให้คุณพลาดหรือมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆ ถ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรงมากเกินไป คุณก็ควรใส่ใจมันบ้างพอเป็นพิธี

มาเริ่มที่เกรดเฉลี่ย หรือที่เรียกกันเล่นๆ ว่า GPA สำหรับสาขาสังคมศาสตร์ควรอยู่ในระดับ 2.8 ขึ้นไป ส่วนสาขาวิทยาศาสตร์ขอแค่ 2.5 ขึ้นไปก็ปลอดภัยแล้วล่ะ ที่บอกว่าปลอดภัยนี่หมายถึง โอกาสผ่านการพิจารณาเกรดสำหรับบริษัทส่วนใหญ่ของคุณจะมีสูงนั่นเอง อย่างน้อยเขาก็ไม่สะดุดตา เอะใจ กับเกรดอันน้อยนิดของคุณ จนทำให้ต้องมานั่งตัดสินใจเลือกอีกครั้ง แทนที่จะผ่านไปดูคุณสมบัติอื่นๆต่อถ้าคุณรักษาระดับความปลอดภัยของเกรดเฉลี่ยไว้ได้ รับรองโอกาสผ่านฉลุยในรอบแรกมีสูงกว่า 95%

ทำไมต้องเอาเกรดเฉลี่ยมาเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาใบสมัครงานด้วย?

Read the rest of this entry »